วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คาถาอาคม

คาถา-อาคมใดๆ ก็ตาม ถ้าหากว่าเราจะต้องท่อง คาถาอาคม ให้ได้ ก็จะต้องทำใจให้บริสุทธิ์ อาบน้ำชำระล้างสิ่งโสโครกให้สะอาดเสียก่อนๆท่องคาถา-อาคม แล้วก็นำดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ แล้วก็ระลึกถึงคุณพระเป็นการขอพรบารมี ให้ท่องคาถาอาคมได้ง่ายจำได้แม่น แล้วก็กราบตำราคาถานั้น 3 ครั้ง ต่อจากนั้นก็เปิดขึ้นมาท่องจำ หนังสือพระคาถา รวมบทสวดมนต์และคาถา นั้นอย่าเหยียบอย่าข้าม อย่านั่งทับหรือนอนทับ ขณะท่องพระคาถาอาคมอย่านอนหลับให้ หนังสือคาถาทับคาอก จะทำให้ปัญญาเสื่อม

ประวัติ พระคาถา

คาถา-อาคม พระคาถาอาคม และ บทสวดมนต์
คาถา-อาคม พระคาถาต่างๆ
เมื่อจะท่องหรือจะใช้ บทสวดมนต์ พระคาถา-อาคม ใดๆนั้นก่อนเริ่มสวดมนต์ คาถา ของในแต่ละ"คาถา พระคาถาต่างๆและบท สวดมนต์"จะต้องตั้ง นะโม 3 จบก่อนเสมอ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

พระวัดปากน้ำ



พระวัดปากน้ำ พระผงของขวัญวัดปากน้ำ หลวงพ่อสด
พระผงของขวัญวัด ปากน้ำ ของท่านเจ้าประคุณพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรีนั้น เป็นพระเครื่องที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างยิ่ง และมีผู้นิยมบูชาแสวงหา ตลอดจนต้องการรู้หลักการพิจารณาเบื้องต้นกันมากมาย ดังนั้น จึงเห็นควรว่าน่าจะพูดคุยกันเป็นเบื้องต้นเกี่ยวกับพระยอดนิยมพิมพ์นี้ เพราะอธิบายทางโทรศัพท์ หรือทางอีเมล์ กันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

พระผงของขวัญวัดปากน้ำนี้ หลวงพ่อสดท่านสร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนช่วย กันสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม นับเป็นการบอกบุญรุ่นแรกๆ และมอบพระให้เป็นที่ระลึก เลยเรียกกันว่า "พระของขวัญ" ซึ่งจัดสร้างเป็นพระเนื้อผง ประกอบด้วยวัตถุมงคลต่างๆ มีตัวหลักเป็นผงปูน และเขียนผงเป็นยันต์วิเศษตามตำรับ เช่น ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงปถมัง เป็นต้น มีมวลสารอื่นๆ อาทิ ดอกมะลิแห้งที่มีผู้นำไปบูชา เส้นเกศาของหลวงพ่อสดเอง

พระวัดปากน้ำนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น ปรากฏว่าพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือทั้งด้านเมตตามหานิยม มหาลาภ แคล้วคลาดคงกระพัน จนพูดกันติดปากว่า "ถ้ามีพระวัดปากน้ำอยู่กับตัวแล้ว ในน้ำไม่ตาย บนบกไม่ตาย กลางอากาศไม่ตาย ลาภผลไม่ขาดมือ และมีค่าเท่ากับสมบัติพันล้าน หากมุ่งหวังสิ่งใดก็ให้อธิษฐานเถิดจักเกิดสัม ฤทธิผลทุกประการ" และเนื่องจากองค์พระเป็นเนื้อผง จึงมีความเปื่อยยุ่ยง่าย ดังนั้น จึงพบว่าบางองค์มีการนำมาลงแล็กเกอร์เพื่อให้เกิดความคงทน

ข้อสังเกตพระวัดปากน้ำ พระผงของขวัญวัดปากน้ำ
"พระปากน้ำรุ่นแรก" เป็นพระผงสีขาวนวล เนื้อองค์พระจะแห้งนุ่มนวล ลักษณะเหมือนจะยุ่ยไม่แกร่ง เมื่อถูกน้ำก็อาจจะละลายได้ง่าย พุทธลักษณะอยู่ในกรอบรูปสี่เหลี่ยม องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางประทานพร พระ หัตถ์ขวาเป็น "มุทรา" เห็นพระดัชนีชัดเจน ประทับนั่งเหนือบัลลังก์บัวคว่ำบัวหงาย ภายใต้ซุ้มเรือนแก้วมีเส้นรัศมีกระจายจากซุ้มในแนวขวางสื่อถึงฉัพพรรณรังสี ด้านหลังมียันต์เป็นอักษรขอมอ่านได้ว่า "ธรรมขันธ์" เนื่องจากสร้างจำนวนพอสมควรจึงใช้แม่พิมพ์ถึง 10 พิมพ์ แต่จะมีจุดสังเกตที่พอพิจารณาเป็นเบื้อง ต้นคือ 1.เส้นรัศมีที่ขวางทางด้านขวามีจำนวน 11 เส้น เส้นรัศมีด้านซ้ายมี 13 เส้น ครูบาอาจารย์เก่าๆ บอกว่าเหมือนบานเกล็ดที่เปิดปิดได้ 2.เค้าพระพักตร์ส่วนพระปราง (แก้ม) พองออกเป็นรูปกลม ยกเว้นปลายคางที่สอบแหลมเล็กน้อย 3.องค์พระจะอวบอ้วนนูนสูงกว่ารุ่นสองและรุ่นสาม 4.ข้อพระกรซ้ายจะเรียวเล็ก พระหัตถ์ที่ยกขึ้นจีบนิ้วหนาใหญ่กว่ารุ่นอื่น 5.พระกรรณด้านขวาจะยาวกว่าด้านซ้าย ให้สังเกตดีๆ ว่าเกือบทุกพิมพ์ด้านบนขององค์พระจะกว้างกว่าด้านล่าง แต่แทบจะสังเกตไม่เห็น

"พระวัดปากน้ำรุ่นสอง" พุทธลักษณะพิมพ์ทรงเหมือนรุ่นแรก แต่เนื้อจะเพิ่มตัวประสานคือ น้ำมันตั้งอิ้ว และพิถีพิถันในการกดพิมพ์ให้แน่นขึ้น เนื้อองค์พระจะแกร่ง ดูไม่ยุ่ย รวมทั้งดูไม่เก่าเหมือนรุ่นแรกและจุดสังเกตที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกัน

" พระวัดปากน้ำรุ่นสาม" พุทธลักษณะจะต่างจากรุ่นแรกและรุ่นสองอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนำแม่พิมพ์เดิมมาตกแต่งเพิ่มเติมและจัดสร้างเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้แม่พิมพ์จำนวนมาก จะเห็นความคมชัดและสวยงามขององค์พระกว่ารุ่นหนึ่งและรุ่นสอง เนื้อมีความแกร่งเพราะเพิ่มตัวประสานกันพระยุ่ย องค์พระจะดูใหม่และมีกลิ่นน้ำมันตั้งอิ้วผสมอยู่ อีกทั้งเอกลักษณ์ในแม่พิมพ์ก็ต่างกัน

ตามความเห็นของผมแล้วการแยกพระ รุ่นสอง รุ่นสาม ไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องยากคือการดูรุ่นหนึ่งให้ขาด เนื่องจากมีทั้งลงแล็กเกอร์และไม่ลง อีกทั้งมีพิมพ์ต่างๆ อีกนับสิบพิมพ์ซึ่งต้องสังเกตและพิจารณาให้รอบคอบครับผม บทความพระเครื่อง

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หลวงพ่อโอภาษี พิมพ์เสมา


หลวง พ่อโอภาษี พิมพ์เสมา พิมพ์เสมาเนื้อผงพุทธคุณผสสมผงธูปที่ทำการบูชาไฟในกระถางเพิ่อเป็นกสินสติ (กสินไฟ) ใช้ในการเผาไหม้กิเลสให้หมดสิน แต่ก่อนที่จะกิเลสหมดสิ้นนั้นต้องสำเร็จกสินไฟนี้เสียก่อน และการได้สำเร็จกสินไฟนี้ ทำให้ผู้สำเร็จมีฤทธิมากมาย
ชิ้นนี้สภาพสมบูรณ ลงรักษ์น้ำเกลี้ยงเคลือบไว้เพื่อรักษาเนื้อ ด้านหลังปั้มตรา จปร.ของ ร.5 (ซึ่งหลวงพ่อโอภาษีให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง) ได้คมชัดลึกเป็นอย่างมาก

สนใจโทร 0851329792

เสือหลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส รุ่น 6



อุปเท่ห์ของเสือ ...สิทธิการิยะ สาธุชนใดบูชา"เสือ"ติดตัวนำไปที่ใดย่อมเป็นที่คร้ามเกรงแก่คนทั้งหลาย อำนาจดีนักบังเกิดตบะเดชะ ให้ภาวนาคาถานี้ มีสง่าราศี ...ตั้งนะโม 3จบ พยัคโฆ พยัคฆา สัญญา สัพพะติ อิติ หิหัมหึม 3จบ คำยืนยันจากหลวงพ่อวงษ์ ที่ลูกศิษย์จะได้ยินเสมอคือ"เสือนี้เป็นของหลวงพ่อปาน(วัดคลองด่าน) ไมใช่เสือของท่าน"เสือที่ปลุกเสกด้วยอิทธิบารมีหลวงพ่อปาน มี6รุ่น รุ่น1สร้างปี 2501 จนถึงรุ่นสุดท้ายรุ่น6 สร้างปี 2518 ที่หลวงพ่อวงษ์ปลุกเสกร่วมกับอิทธิบารมีหลวงพ่อปาน หลวงพ่อวงษ์มรณะภาพ ในเวลา 09.00น. ของวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2523 หลวงพ่อได้ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกศิษย์คือ เสือทั้ง 6รุ่น... หลังจากที่หลวงพ่อวงษ์มรณะภาพ สังขารท่านก็ไม่ได้เน่าเปื่อย หลวงพ่อท่านชำนาญด้านพุทธาคม การเขียนผง ท่านสนใจการเล่นแร่แปรธาตุ ในแวดวงพระเครื่อง จะรู้จักท่านจากเสือทั้ง 6รุ่น ใน เบญจภาคี เครื่องราง เซียนพระรุ่นก่อนได้บัญญัติไว้ว่า"เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น เบี้ยแก้หลวงปู่รอด ตะกรุดหลวงปู่กลิ่น ราหูหลวงพ่อน้อย"แต่เค้าว่า ถ้าหาหนุมานหลวงพ่อสุ่นไม่ได้ ก็เอาลิงหลวงพ่อดิ่งแทน ถ้าหาเบี้ยหลวงปู่รอดไม่ได้ ก็เอาเบี้ยหลวงปู่บุญได้ และเค้าก็ว่ามาอีกว่า ถ้าหาเสือหลวงพ่อปานไม่ได้ ก็ลองใช้เสือหลวงพ่อวงษ์ครับ...นับวันยิ่งหายาก...ราคาขยับขึ้นทุกที ....เพราะใครได้ครอบครองก็จะหวงกันมาก..มากด้วยประสพการณ์....


วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หลวงปู่บุญ พิมพ์ซุ้มโค้ง เนื้อผงว่าน



พระ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม...พิมพ์ซุ้มเว้า หรือ ซุ้มโค้ง...เนื้อว่านพญาไม้ผุผ่านงานประกวดงาน ใหญ่หลายงาน
หลวงปู่ท่านเขียนผง และ ลบผงวิเศษเอง โดยมีผงวิเศษ 5 ชนิด...ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงปัถมัง ผงพุทธคุณ นำมาผสมกับว่านพญาไม้ผุ ซึ่งหายากมากๆ...แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของท่านครับ...กดพิมพ์...มีทั้งหลัง เรียบ หลังอูมเบี้ย และ หลังจาร...
พุทธคุณครอบจักรวาลครับ...เด่นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด คงกระพันเป็นเยี่ยม..
องค์นี้สภาพสวย เดิมๆ ไม่ผ่านการใช้ กดพิมพ์ได้กำลังดี หลังกดรอยนิ้วมือลางๆ ส่องมวลสารได้เยอะใช้ได้...เลี่ยมห้อยคอไม่เสียดายตังค์เลยครับ...พระหลวง ปู่บุญ นับวันยิ่งหายาก ทวีมูลค่าขึ้นทุกวันครับ.....
ปัจจุบัน หาชมยากมาก ผู้มีกำลังและวาสนาเก็บเขารังกันหมด.
แล้วท่านล่ะมีวาสนาถึงท่านมั๊ย

เพิ่ม เติมได้ที่ http://jk-pra.com/shop/webboard.php?Category=jittapan

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า พิมพ์ฐานแซม



สมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า พิมพ์ฐานแซม สภาพบิ่นมุมบน 2 มุม เดิมนั้นเคยลงรักษ์ ปิดทองก่อนที่จะลงกรุ ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติ พิมพ์พระครบ 1000 องค์ก็จะทำการ ทำตำหนิพระไว้ให้รู้ว่าถึง 1พันองค์แล้ว ซึงจะทำให้ง่ายต่อการจดจำ
หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผู้ี่ได้ครอบครองไว้ ก็จะนำไปลงรักษ์ปิดทองเพื่อเป็นการรัษาเนื้อขององค์พระ จักได้อยู่ได้นานไม่ย่อยสลายง่าย
แต่องค์นี้สันนิฐานว่าเป็นเหตุผลของ1 มากกว่า เพราะได้นำมาลงกรุ
ปัจจุบนนี้หาพระของสมเด็จท่าน(โต) ซักองค์ยากเต็มที่ ยิ่งเป็นวัดระฆัง ไม่ต้องพูดถึงเลย ได้ดูรูปก็พอแล้ว องค์จริงอยู่ในธนาคารหมด(เจ้าของกลัวหายจึงนำไปฝากธนาคาร) อันนี้ในความคิดของผมนะ เข้าเรียกว่ามีเงินแต่ไม่มีบุญที่จะบูชาท่านไว้กับตัวหรือที่บ้าน เหตุที่ผมคิดดังนี้เพราะว่า เขาผู้นั้นมีเงิน แต่ด้วยกลัวภัยต่างๆนาๆกับพระ จึงได้นำพระท่านไปฝากไว้กับธนาคาร ผลประโยฃน์จึงเกิดขึ้นกับธนาคารนั้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางตรงคือ ธนาคารได้เงินจากการรับฝากพระ จากเจ้าของพระ
ทางอ้อมคือ ธนาคารได้บูญฤทธิ อิทธิฟทธิ จากพระ ที่ได้รับฝาก ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้ธนาคารนั้น เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นตามลำดับ ด้วยบุญฤทธิแห่งสมเด็จ(องค์ที่ได้รับฝาก)

แบบนีร้ล่ะครับที่เรียกว่ามีเงินแต่ไม่มีบุญ

แต่สำหรับองค์นี้ ไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องความแท้ แล้ว ราคา
ราคาตั้งไว้ในราคาที่สะสมได้ และไม่ต้องนำท่านไปไว้ธนาคารด้วยเหตุผลทั้งปวง

จึงเป็นศิริมงคล แก่ผู้ครอบครอง
เชื่อเถอะครับบิ่นเพียงมุม 2 มุม ไม่ได้ทำให้พุทธคุณของท่านได้หายไปเลย ยังดงเต็มเปลี่ยม เฉกเช่น สมเด็จวัดระฆังเลย